ก่อนอื่น มาทำความรู้จักกับคำว่า “ย้อมแมวขาย” กันเสียก่อน คำว่าย้อมแมวก็คือการที่ผู้ขายตกแต่ง เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขซากรถให้กลับมาดูดีมีคุณภาพ แต่หารู้ไม่ว่าถึงแม้จะทำการย้อมแมวแค่ไหน คุณภาพของตัวรถก็ไม่มีทางกลับมาดีเหมือนเดิมได้เลย เพราะฉะนั้นจึงควรศึกษา 4 กลโกงที่ผู้ขายนิยมนำมาใช้ในการย้อมแมว เราจะได้รู้เท่าทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อต่อกลโกงเหล่านี้
กลโกงที่ 1 เลขไมล์
ตัวเลขที่ขึ้นแสดงอยู่หน้าปัดรถยนต์อาจจะไม่ใช่ตัวเลขที่แท้จริงเสมอไป เพราะผู้ขายรถมือสอง ก็ย่อมแสวงหาผลกำไร ปรับแต่งให้เลขไมล์ต่ำ เพื่อแสดงว่ารถยนต์ผ่านการใช้งานมาน้อยแล้วก็สามารถตั้งราคาขายได้สูงขึ้น ก่อนซื้อจึงควรเช็คเลขไมล์ที่แท้จริงโดยการ
- เช็คปีและสภาพรถทั้งภายในและภายนอกประกอบ ยกตัวอย่างเช่น รถที่วิ่งมา 30,000 กิโลเมตร แต่เป็นรถเมื่อ 10 ปีที่แล้ว สภาพทรุดโทรม นั่นก็ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเลขไมล์ที่แท้จริง
- ตรวจเช็คจาก Book Service หรือ สมุดคู่มือการเช็ครถ ว่าเลขไมล์ในการตรวจเช็ครถครั้งล่าสุดคือเท่าใด นำมาพิจารณาว่าเลขไมล์ตรงกันหรือใกล้เคียงกับเลขที่แสดงอยู่หรือไม่
กลโกงที่ 2 รถผิดกฎหมาย
ผู้ซื้อไม่อาจทราบได้เลยว่ารถที่ตนกำลังหมายตาอยู่นั้นเป็นรถที่ถูกกฎหมายหรือไม่ หากเป็นรถจากการขโมย ผู้ซื้อมีความผิดฐานรับซื้อของโจร ดังนั้นผู้ซื้อควรตรวจสอบอย่างละเอียดโดยการ
- หากรถราคาถูกกว่าความเป็นจริงมาก ก็ต้องระวังไว้ก่อน เพราะอาจเป็นรถที่ได้มาโดยผิดกฎหมายก็ได้
- จะต้องตรวจเช็คที่มาของรถได้ โดยตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นที่สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสาขา
- หากจะให้มั่นใจ 100% ก็ควรนำตัวรถและเอกสารประจำรถดังกล่าวมาตรวจเช็คที่สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสาขาที่รถคันนั้นได้จดทะเบียนไว้
กลโกงที่ 3 กล่าวอ้างเกินความเป็นจริง
ธรรมชาติของคนขายก็อยากปิดการขายโดยเร็วที่สุด ซึ่งผู้ขายบางคนอาจใช้วิธีผิด ๆ โดยการกล่าวอ้างเกินความเป็นจริง ยกตัวอย่างเช่น
- กล่าวอ้างว่ารถสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลแต่ประหยัดน้ำมันเกินจริง หรือชาร์จไฟในระยะเวลาอันสั้นแต่สามารถวิ่งได้ระยะทางไกล เราสามารถตรวจสอบได้โดยทดลองขับจริง ดูว่าวิ่งไปแล้วระยะทางเท่าไหร่ประกอบกับตรวจดูเกจน้ำมันว่าลดลงเท่าไหนแล้ว ลองนำมาเฉลี่ยเป็นตัวเลขคร่าว ๆ ดู
- โฆษณาว่าโครงสร้างรถและช่วงล่างแข็งแรงเหมือนใหม่ แต่เมื่อมาเปรียบเทียบดูรุ่นปีของรถแล้ว ยังไงก็ต้องเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา เราควรตรวจเช็คโดยการนำรถเข้าศูนย์บริการหรือพาช่างผู้ชำนาญการเข้าไปตรวจสอบ
กลโกงที่ 4 ซ่อนเร้นประวัติรถ
รถมือสอง บางคันอาจมีประวัติที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อ อย่างเช่น การชนหนัก การติดแก๊ส เป็นต้น เหล่านี้สามารถตรวจสอบได้โดย
- ตรวจสอบตัวรถกับเล่มทะเบียนหรือป้ายวงกลม ว่ามีข้อมูลตรงกันหรือไม่ ดูยี่ห้อรถ รุ่นรถ ปีของรถ สีของรถ
- ตรวจรายละเอียดแผ่นป้ายทะเบียน ว่าเป็นป้ายทะเบียนจริงหรือไม่ หากไม่ทราบวิธี ควรเช็คจากกรมการขนส่งทางบก
- นำเล่มทะเบียนตรวจสอบจากกรมการขนส่งทางบกเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะในสมัยนี้มิจฉาชีพสามารถปลอมได้ทั้งเล่ม
การซื้อรถมือสองที่มีคุณภาพดีควรตรวจสอบอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวรถและเอกสารประจำรถ ทุกอย่างจะต้องตรวจสอบได้ มีความน่าเชื่อถือ อย่างเช่นการซื้อรถผิดกฎหมาย ผู้ซื้ออาจมีความผิดฐานรับซื้อของโจร หรือเลขไมล์ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเป็นเลขที่แท้จริง มิเช่นนั้นก็อาจได้รถที่ใช้งานมาหนักเกินว่าที่เราหมายตาไว้แต่แรก ดังนั้นหากผู้ซื้อไม่มีความรู้ด้านรถก็ควรหาช่างที่เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ หากผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารไม่ได้ว่าเป็นของแท้หรือปลอมก็ควรนำเอกสารไปตรวจสอบจากกรมการขนส่งทางบก หากทำได้ตามนี้ ผู้ซื้อก็จะได้รถที่มีคุณภาพดีตรงกับความต้องการ หายห่วงเรื่องจะโดยย้อมแมวไปได้เลย